ทำไมต้อง...ออร์แกนิค ?

 


พืชออร์แกนิคเป็นพืชที่เพาะปลูกด้วยวิธีธรรมชาติ 100% โดยไม่ใช้สารเคมีสังเคราะห์ใดๆ ในทุกขั้นตอนของการผลิต ตั้งแต่การเพาะเมล็ด การปลูก การเก็บเกี่ยว ไปจนถึงการแปรรูป จึงเป็นพืชที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม

ประโยชน์ของการรับประทานพืชออร์แกนิคมีดังนี้

  • ปลอดภัยต่อสุขภาพ พืชออร์แกนิคไม่มีสารเคมีตกค้าง เช่น ยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมี ฮอร์โมนเร่งโต หรือสารเร่งการเจริญเติบโต ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้ เช่น โรคมะเร็ง โรคภูมิแพ้ โรคระบบประสาท เป็นต้น
  • มีคุณค่าทางโภชนาการสูง พืชออร์แกนิคมีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายมากกว่าพืชที่ปลูกด้วยสารเคมี เช่น วิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระ
  • ดีต่อสิ่งแวดล้อม การปลูกพืชออร์แกนิคช่วยรักษาความอุดมสมบูรณ์ของดิน ป้องกันการปนเปื้อนของน้ำและอากาศ และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

นอกจากนี้ พืชออร์แกนิคยังเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่แพ้สารเคมี หรือผู้ที่ใส่ใจสุขภาพและสิ่งแวดล้อม

ดังนั้น การเลือกบริโภคพืชออร์แกนิคจึงเป็นทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมของเรา

ตัวอย่างของผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค ได้แก่

  • ผัก เช่น ผักกาดหอม ผักคะน้า ผักบุ้ง ผักโขม มะเขือเทศ แตงกวา
  • ผลไม้ เช่น แอปเปิ้ล สตรอว์เบอร์รี่ มะม่วง มะละกอ กล้วย
  • เนื้อสัตว์ เช่น เนื้อวัว เนื้อไก่ เนื้อหมู
  • ผลิตภัณฑ์นม เช่น นม โยเกิร์ต ชีส
  • ไข่

ผู้บริโภคสามารถหาซื้อพืชออร์แกนิคได้จากร้านค้าทั่วไป หรือร้านค้าออนไลน์ที่จำหน่ายสินค้าออร์แกนิคโดยเฉพาะ

อาหารออร์แกนิค คือ อาหารที่ปลูกหรือเลี้ยงโดยปราศจากการใช้สารเคมีสังเคราะห์ ปุ๋ยเคมี ยาฆ่าแมลง ยาปฏิชีวนะ ฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโต และการตัดต่อพันธุกรรม กระบวนการผลิตอาหารออร์แกนิคจะเน้นการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยหมัก ชีวภัณฑ์ และการจัดการศัตรูพืชแบบผสมผสาน เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพดีและปลอดภัยต่อผู้บริโภค

ประโยชน์ของอาหารออร์แกนิค มีดังนี้
  • มีความปลอดภัยต่อสุขภาพ เนื่องจากอาหารออร์แกนิคปราศจากสารเคมีตกค้าง จึงช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง
    โรคภูมิแพ้ และโรคอื่นๆ ที่อาจเกิดจากสารเคมี
  • มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เนื่องจากอาหารออร์แกนิคมีปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระและสารอาหารอื่นๆ สูงกว่าอาหารทั่วไป
  • ดีต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากกระบวนการผลิตอาหารออร์แกนิคไม่ใช้สารเคมี จึงช่วยลดมลพิษทางอากาศ น้ำ และดิน

อย่างไรก็ตาม อาหารออร์แกนิคก็มีราคาสูงกว่าอาหารทั่วไป เนื่องจากต้นทุนการผลิตสูงกว่า
และผลผลิตที่ได้น้อยกว่า เนื่องจากผลผลิตออร์แกนิคมีความเปราะบางกว่าผลผลิตทั่วไป

ข้อควรระวังในการบริโภคอาหารออร์แกนิค

  • อาหารออร์แกนิคอาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีโรคภูมิแพ้บางชนิด เช่น โรคหอบหืด 
  • เนื่องจากอาหารออร์แกนิคอาจปนเปื้อนด้วยสารก่อภูมิแพ้จากธรรมชาติ เช่น ละอองเกสร
  • อาหารออร์แกนิคอาจมีคุณค่าทางโภชนาการน้อยกว่าอาหารทั่วไป หากเกษตรกรไม่ได้ใช้ปุ๋ยอินทรีย์หรือชีวภัณฑ์ที่เหมาะสม

การปลูกแบบออร์แกนิค คือการเพาะปลูกพืชโดยไม่ใช้สารเคมีสังเคราะห์ใด ๆ
ไม่ว่าจะเป็นยาฆ่าแมลง ยาฆ่าวัชพืช ปุ๋ยเคมี ฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโต
สารปรับปรุงดิน เป็นต้น แทนที่จะใช้สารเคมีเหล่านี้ เกษตรกรจะอาศัย-
การพึ่งพาธรรมชาติในการช่วยควบคุมศัตรูพืชและโรคพืช
เช่น การใช้พืชหมุนเวียน การปลูกพืชตระกูลถั่วเพื่อตรึงไนโตรเจน
การใช้ปุ๋ยหมักและปุ๋ยคอก การใช้สารไล่แมลงจากธรรมชาติ เป็นต้น

การกินแบบออร์แกนิค
คือการบริโภคอาหารและเครื่องดื่มที่ผลิตจากวัตถุดิบ
ที่ได้มาจากการปลูกแบบออร์แกนิค ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้ออาหารออร์แกนิค
ได้จากร้านค้าทั่วไป ตลาดนัด ฟาร์มออร์แกนิค หรือสั่งซื้อทางออนไลน์

การขายแบบออร์แกนิค

คือการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มที่ผลิตจากวัตถุดิบที่ได้มาจากการปลูกแบบออร์แกนิค

ผู้ประกอบการสามารถขายอาหารออร์แกนิคได้โดยตรงจากฟาร์ม หรือผ่านร้านค้าทั่วไป ตลาดนัด ร้านอาหาร
หรือช่องทางออนไลน์

เกษตรปลอดโรค หมายถึง เกษตรกรรมที่ไม่ใช้สารเคมีสังเคราะห์ใด ๆ ในการเพาะปลูก เกษตรจึงปลอดโรค

ผู้บริโภคปลอดภัย หมายถึง การที่ผู้บริโภคได้รับอาหารและเครื่องดื่มที่ปลอดภัยจากสารพิษ สารเคมีตกค้าง
สารปนเปื้อนต่าง ๆ การบริโภคอาหารออร์แกนิคเป็นวิธีที่ช่วยให้ผู้บริโภคปลอดภัยจากสารพิษตกค้างได้

การปลูกแบบออร์แกนิค กินแบบออร์แกนิค ขายแบบออร์แกนิค
เกษตรปลอดโภค ผู้บริโภคปลอดภัย ล้วนเป็นแนวทางที่ส่งเสริม
ให้ผู้บริโภคได้รับอาหารและเครื่องดื่มที่ปลอดภัยจากสารพิษตกค้าง
ส่งผลดีต่อสุขภาพของผู้บริโภคในระยะยาว

นอกจากนี้ การปลูกแบบออร์แกนิคยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

เพราะไม่ใช้สารเคมีสังเคราะห์ที่อาจปนเปื้อนสู่ดิน น้ำ และอากาศ

ส่งผลให้ระบบนิเวศมีความสมดุลและอุดมสมบูรณ์มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม การปลูกแบบออร์แกนิคอาจต้องใช้เวลาและแรงงานมากกว่าการปลูกแบบใช้สารเคมี

เนื่องจากต้องอาศัยการพึ่งพาธรรมชาติในการช่วยควบคุมศัตรูพืชและโรคพืช

ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตอาจสูงกว่าการปลูกแบบใช้สารเคมี จึงเป็นสิ่งสำคัญ

ที่เกษตรกรควรได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อให้สามารถ

ผลิตอาหารออร์แกนิคได้อย่างมีคุณภาพและราคาที่สมเหตุสมผล


ปัจจุบัน ผู้บริโภคชาวไทยให้ความสนใจการบริโภคอาหารออร์แกนิคมากขึ้น 
ส่งผลให้ตลาดอาหารออร์แกนิคมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นโอกาสที่ดีสำหรับเกษตรกรที่จะหันมาปลูกพืช
แบบออร์แกนิคเพื่อสร้างรายได้และยกระดับคุณภาพชีวิตของตนเองโดยสรุปแล้ว อาหารออร์แกนิคเป็นทางเลือกที่ดี
สำหรับผู้ที่ต้องการรับประทานอาหารที่ปลอดภัย มีคุณภาพดี และดีต่อสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม ควรบริโภค

อาหารออร์แกนิคอย่างเหมาะสม เพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุด

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ปลูกมันเทศญี่ปุ่นให้ประสบความสำเร็จ ด้วย ออร์แกนิคโซลูชั่น เอแพล้น และ บิ๊กไซส์

สารออร์แกนิคโซลูชั่น วันเดอร์ฟูล เหมือนกับฉีดวัคซีนให้กับพืช

เกษตรกรยุคใหม่ ส่วนใหญ่หันมาใช้สารออร์แกนิคโซลูชั่น เพื่อลดต้นทุนการผลิตกันแล้ว